ดูชัดๆ!ใบแดงบาโลค่าโง่จากลูกเกเร
มันโช่พอใจเรือใบ10คนบุกแบ่งแต้มหงส์
โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผยพอใจกับผลเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 ที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวชมบรรดาลูกทีมที่สู้อย่างเต็มที่ ทั้งที่เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ในช่วงท้ายครึ่งหลัง
"เรือใบสีฟ้า" มาดี โดยได้ประตูนำไปก่อน จากการโหม่งของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ในนาทีที่ 31 อย่างไรก็ตาม "หงส์แดง" ตามตีเสมออีก 2 นาทีถัดมา จากการยิงไกลของ ชาร์ลี อดัม ที่ไปแฉลบเท้าของ โจลีออน เลสค็อตต์ เข้าไปซุกก้นตาข่าย โดยในครึ่งหลัง มาริโอ บาโลเตลลี่ ถูกไล่ออกหลังโดน 2 ใบเหลือง ทั้งที่เพิ่งลงมาเล่นในฐานะตัวสำรองเพียงแค่ 18 นาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำได้แค่หวาดเสียว จบเกมแบ่งแต้มกันไปอย่างสนุก
มันชินี่ กล่าวอย่างพอใจ เพราะอย่างน้อยๆ พวกเขายังคงรักษาระดับความห่างจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ถึง 5 คะแนน "มันเป็นผลการแข่งขันที่ดี โดยเฉพาะเราเล่นในช่วง 10 นาทีสุดท้ายด้วยผู้เล่นแค่ 10 คน สิ่งนี้มีความสำคัญมากๆ โจ (ฮาร์ท) ป้องกันได้อย่างสุดยอด แต่ด้วยผู้เล่น 10 คน เรามีโอกาสดีมากๆ ที่จะชนะในช่วงท้ายเกม จาก ดาบิด ซิลบา"
"แต่มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ที่ยังคงไม่แพ้ทีมใด (ในเกมลีก) เพราะมันบ่งบอกให้เห็นว่า เราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง สำหรับเรามันเป็นผลการแข่งขันที่ดีจริงๆ เพราะแมตช์นี้ช่างยากลำบากเหลือเกิน" อดีตเทรนเนอร์ อินเตอร์ มิลาน กล่าวทิ้งท้าย
ดัลกลิชชมแข้งหงส์สุดทุ่มเทน่าจมเรือได้
เคนนี่ ดัลกลิช นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ระบุ ทีมของตนน่าเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จ ในเกมที่เปิดบ้านเสมอกับ "เรือใบสีฟ้า" 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะลูกทีมทุกคนต่างโชว์แนวคิดที่สมเป็นยอดนักสู้ หลังถูกนำไปก่อน จนตามตีเสมอได้สำเร็จ แถมมีโอกาสเกือบคว้าชัยได้ด้วยซ้ำ
เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เชื่อว่า ทีมของตนน่าจะเป็นฝ่ายเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เปิดรัง แอนฟิลด์ เสมอกับผู้มาเยือน 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพราะลูกทีมของตนโชว์ทัศนคติที่ยอดเยี่ยม และไม่ยอมแพ้ แม้จะต้องเป็นฝ่ายไล่ตาม จนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
แว็งซ็องต์ ก็องปานี ปราการหลังทีมเยือน ทำประตูขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 31 แต่เจ้าบ้านโชว์สปิริตที่ยอดเยี่ยม ตามตีเสมอได้ทันควันเพียง 2 นาทีหลังจากนั้น จากจังหวะที่ ชาร์ลี อดัม ซัดไกล และไปแฉลบเท้าของ โจลีออน เลสค็อตต์ จนกลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง โดยถึงแม้ มาริโอ บาโลเตลลี่ จะมาโดนใบเหลืองที่ 2 และถูกไล่ออกในนาทีที่ 83 แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรเพิ่มได้ จนจบเกมด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้ "หงส์แดง" เก็บได้ 23 แต้ม จาก 13 นัด รั้งอันดับที่ 6 ของตารางคะแนนในตอนนี้
ดัลกลิช ให้สัมภาษณ์กับ "สกายสปอร์ตส์ วัน" สื่อเมืองผู้ดีว่า "พวกเขาเริ่มได้ดีกว่าเราก็จริง แต่พอเกมของเราเข้าที่แล้วเนี่ย ผมว่าเราเป็นทีมที่ดีกว่าในท้ายที่สุดนะ ผมคิดว่า เราก็โชคดีเหมือนกันที่ได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วในวันนี้ มันช่วยรักษาจิตวิญญาณของเราเอาไว้ได้ แต่ตอนที่เราเสียประตูไปก่อน คุณจะเห็นได้เลยว่า ทัศนคติของเราได้เปลี่ยนแปลงไป เพราะลูกทีมของผมต้องการทำประตูคืนให้ได้"
"ในครึ่งหลัง คุณจะเห็นถึงทัศนคติของพวกเขาได้เลยว่า พวกเขามีความมุ่งมั่นที่ไม่ต้องการพ่ายแพ้ และอยากพยายามให้ดีที่สุดเพื่อที่จะเอาชนะให้ได้ โชคไม่ดีที่เราไม่สามารถส่งบอลเข้าประตูไปเพิ่มได้ แต่ผมก็คิดว่า ตั้งแต่ที่ผมเข้ามาทำทีม ท่าทีและความทุ่มเทของพวกเขาต่างอยู่ในระดับที่สุดยอดทุกๆ วันเลยทีเดียว"
"จริงอยู่ว่า มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ แต่ก็ไม่ควรถูกมองข้ามไป พวกเขาทำงานกันหนักจริงๆ ผมคิดว่า นี่คือทีมที่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นนิดๆ เช่นกัน เพราะเรามีผู้เล่นหน้าใหม่ย้ายเข้ามาประมาณ 3 หรือ 4 คน และยังเป็นฤดูกาลแบบเต็มตัวซีซั่นแรกของ แอนดี้ (แคร์โรลล์) กับเราด้วย"
"พวกเขากำลังทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ดีขึ้นอยู่ ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังเล่นได้ดีขึ้น รวมถึงมีทัศนคติที่มหัศจรรย์ และเดินหน้าลงเล่นด้วยจิตใจที่ดี ถ้าพวกเขายังเป็นอย่างนี้ต่อไป และยังซ้อมอย่างหนักต่อแล้วล่ะก็ พวกเขาก็จะมีโชคนิดๆ อีกครั้งแน่นอน"
"ฟอร์มในวันนี้มหัศจรรย์มากก็จริง แต่ผมไม่คิดว่า พวกเขาได้รับผลที่คู่ควรกับฟอร์มในวันนี้อย่างเต็มที่หรอกนะ ผมคิดว่า พวกเขาสมควรที่จะได้ 3 คะแนน และเราน่าจะสามารถคว้ามาได้ด้วย แต่ก็พลาดไปในที่สุด ยังไงก็ตาม เราไม่รู้สึกเสียใจกับตนเองแน่นอน เราจะตำหนิตัวเองกับความผิดพลาดของเรา หาข้อแก้ไขพร้อมเดินหน้าต่อ แล้วคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป" กุนซือวัย 60 ปี ร่ายยาว
เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เชื่อว่า ทีมของตนน่าจะเป็นฝ่ายเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เปิดรัง แอนฟิลด์ เสมอกับผู้มาเยือน 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพราะลูกทีมของตนโชว์ทัศนคติที่ยอดเยี่ยม และไม่ยอมแพ้ แม้จะต้องเป็นฝ่ายไล่ตาม จนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
แว็งซ็องต์ ก็องปานี ปราการหลังทีมเยือน ทำประตูขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 31 แต่เจ้าบ้านโชว์สปิริตที่ยอดเยี่ยม ตามตีเสมอได้ทันควันเพียง 2 นาทีหลังจากนั้น จากจังหวะที่ ชาร์ลี อดัม ซัดไกล และไปแฉลบเท้าของ โจลีออน เลสค็อตต์ จนกลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง โดยถึงแม้ มาริโอ บาโลเตลลี่ จะมาโดนใบเหลืองที่ 2 และถูกไล่ออกในนาทีที่ 83 แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรเพิ่มได้ จนจบเกมด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้ "หงส์แดง" เก็บได้ 23 แต้ม จาก 13 นัด รั้งอันดับที่ 6 ของตารางคะแนนในตอนนี้
ดัลกลิช ให้สัมภาษณ์กับ "สกายสปอร์ตส์ วัน" สื่อเมืองผู้ดีว่า "พวกเขาเริ่มได้ดีกว่าเราก็จริง แต่พอเกมของเราเข้าที่แล้วเนี่ย ผมว่าเราเป็นทีมที่ดีกว่าในท้ายที่สุดนะ ผมคิดว่า เราก็โชคดีเหมือนกันที่ได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วในวันนี้ มันช่วยรักษาจิตวิญญาณของเราเอาไว้ได้ แต่ตอนที่เราเสียประตูไปก่อน คุณจะเห็นได้เลยว่า ทัศนคติของเราได้เปลี่ยนแปลงไป เพราะลูกทีมของผมต้องการทำประตูคืนให้ได้"
"ในครึ่งหลัง คุณจะเห็นถึงทัศนคติของพวกเขาได้เลยว่า พวกเขามีความมุ่งมั่นที่ไม่ต้องการพ่ายแพ้ และอยากพยายามให้ดีที่สุดเพื่อที่จะเอาชนะให้ได้ โชคไม่ดีที่เราไม่สามารถส่งบอลเข้าประตูไปเพิ่มได้ แต่ผมก็คิดว่า ตั้งแต่ที่ผมเข้ามาทำทีม ท่าทีและความทุ่มเทของพวกเขาต่างอยู่ในระดับที่สุดยอดทุกๆ วันเลยทีเดียว"
"จริงอยู่ว่า มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ แต่ก็ไม่ควรถูกมองข้ามไป พวกเขาทำงานกันหนักจริงๆ ผมคิดว่า นี่คือทีมที่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นนิดๆ เช่นกัน เพราะเรามีผู้เล่นหน้าใหม่ย้ายเข้ามาประมาณ 3 หรือ 4 คน และยังเป็นฤดูกาลแบบเต็มตัวซีซั่นแรกของ แอนดี้ (แคร์โรลล์) กับเราด้วย"
"พวกเขากำลังทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ดีขึ้นอยู่ ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังเล่นได้ดีขึ้น รวมถึงมีทัศนคติที่มหัศจรรย์ และเดินหน้าลงเล่นด้วยจิตใจที่ดี ถ้าพวกเขายังเป็นอย่างนี้ต่อไป และยังซ้อมอย่างหนักต่อแล้วล่ะก็ พวกเขาก็จะมีโชคนิดๆ อีกครั้งแน่นอน"
"ฟอร์มในวันนี้มหัศจรรย์มากก็จริง แต่ผมไม่คิดว่า พวกเขาได้รับผลที่คู่ควรกับฟอร์มในวันนี้อย่างเต็มที่หรอกนะ ผมคิดว่า พวกเขาสมควรที่จะได้ 3 คะแนน และเราน่าจะสามารถคว้ามาได้ด้วย แต่ก็พลาดไปในที่สุด ยังไงก็ตาม เราไม่รู้สึกเสียใจกับตนเองแน่นอน เราจะตำหนิตัวเองกับความผิดพลาดของเรา หาข้อแก้ไขพร้อมเดินหน้าต่อ แล้วคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป" กุนซือวัย 60 ปี ร่ายยาว
คิงเคนนี่ยกเรือใบดีสุดในลีกผู้ดี
เคนนี่ ดัลกลิช ผู้จัดการทีมคนดังของ ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง เป็นทีมที่ดีที่สุดในวงการลูกหนังเมืองผู้ดีในเวลานี้ หลังทำผลงานได้อย่างสุดยอดนับตั้งแต่ที่เปิดฤดูกาลมา
ลูกทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา ทั้งยิงประตูได้มากที่สุดในลีกถึง 42 ลูก โดย "คิง เคนนี่" ให้ความเห็นว่า "พวกเขารั้งจ่าฝูงในเวลานี้ คะแนนในตารางบอกพวกคุณได้ว่า พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุด แต่มันก็ไม่บอกคุณว่า พวกเขาจะไม่แพ้"
นอกจากนี้ ดัลกลิช เชื่อว่า ปัญหาของ คาร์ลอส เตเวซ หัวหอกเลือดอาร์เจนไตน์ ไม่ส่งผลกระทบต่อ แมนฯ ซิตี้ อีกแล้ว เพราะพวกเขามี เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ ทำหน้าที่ล่าตาข่ายแทน "ซิตี้ มีแต้มมากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ความจริงก็คือพวกเขารั้งจ่าฝูง นั่นหมายความว่า พวกเขาดีกว่าตอนนั้น ผมยังจำตอนที่เราเอาชนะพวกเขาเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาที่ แอนฟิลด์ ตอนที่พวกเขาไม่มี เตเวซ เนื่องจากบาดเจ็บ หลังจากเล่นไปได้ 20 นาที"
"การขาด เตเวซ เป็นปัญหาใหญ่มากในค่ำคืนนั้น แต่พวกเขาไม่มี อเกวโร่ ที่มาแทนที่เขา การเสีย เตเวซ เสียหายจริงๆ แต่ อเกวโร่ ย้ายมา และทำผลงานได้ดี ซึ่งพวกเขามีคนมาแทนอีกคนแล้ว พวกเขามีผู้เล่นคนอื่นๆ และพวกเขากำลังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง" กุนซือชาวสกอตแลนด์ ระบุ
เรน่ารับปฏิเสธทิ้งหงส์หวังนำแชมป์คืนแอนฟิลด์
โฆเซ่ มานูเอล เรน่า ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนของ ลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายอมรับว่า ตนเคยปฏิเสธจำนวนเงินมหาศาล เพื่อย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ โดยให้เหตุผล ต้องการจงรักภักดีต่อ "หงส์แดง" รวมทั้งอยากนำทีมประสบความสำเร็จให้ได้
นายทวารวัย 29 ปี ซึ่งเคยออกมาเผยว่า อยากลับไปค้าแข้งในบ้านเกิดก่อนที่จะแขวนถุงมือ เป็นหนึ่งในผู้เล่นของ "เดอะ เร้ดส์" ที่ได้รับความสนใจจากหลายๆ สโมสรดัง โดยเฉพาะกับ อาร์เซน่อล ที่แสดงความต้องการอยากได้นักเตะไปเฝ้าเสา และ ลิเวอร์พูล ก็อาจจะต้องปล่อยออกไปเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ แต่ทุกอย่างคลี่คลายไปเมื่อ จอห์น เฮนรี่ มหาเศรษฐีเลือดมะกัน เข้ามาเทกโอเวอร์
เรน่า เปิดใจว่า "มันเป็นความจริงที่ผมเกือบย้ายทีม ผมตัดสินใจอยู่ที่นี่ต่อไป และทุ่มเททำผลงานที่ดีที่สุดของผม เพื่อพยายามช่วยทีมนำแชมป์กลับคืนมา มันเป็นการตัดสินใจที่ผมทำเพื่อภรรยา และลูกๆ ของผม พวกเขารู้สึกว่า ลิเวอร์พูล เป็นเหมือนบ้านอีกหลังหนึ่ง"
"ผมยังมีสัญญาอีก 4 ปีหลังฤดูกาลนี้ และในหัวของผมก็คิดแต่ ลิเวอร์พูล แต่สำหรับในอนาคต ผมคงจะกลับไปที่สเปน และเล่นให้ แอตเลติโก มาดริด เหมือนกับคุณพ่อของผม บางทีผมคงไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะเลือก มันคงจะขึ้นอยู่กับ พวกเขา (แอต.มาดริด) ที่จะตัดสินใจดึงผมไปร่วมทีม" อดีตโกล์ บียาร์เรอัล ระบุ
ลือบาร์ซ่าสนคว้าโคลร่วมทีม
บาร์เซโลน่า สนคว้า แอชลี่ย์ โคล กองหลัง เชลซี เสริมทัพ หลังอนาคตของ เอริก อบิดัล แบ็กซ้ายของทีม ไม่แน่นอน ขณะที่ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ เหลือสัญญากับ "สิงห์บลูส์" จนถึงปี 2013 เท่านั้น
"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ตกเป็นข่าวว่าสนใจที่จะคว้าตัว แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายตัวเก่ง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก มาเสริมทัพ จากการรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ดาว เตะวัย 30 ปี กลายเป็นเป้าหมายของ บาร์ซ่า มานานแล้ว และ โจเซป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ "เจ้าบุญทุ่ม" ก็อาจตัดสินใจเดินหน้าคว้าตัวแข้งทีมชาติอังกฤษ มาร่วมทีม เนื่องจากอนาคตของ เอริก อบิดัล แบ็กซ้ายคนปัจจุบัน เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
โคล เหลือสัญญากับ เชลซี ถึงช่วงซัมเมอร์ 2013 และเขาก็กำลังพิจารณาข้อเสนอสัญญาระยะเวลา 2 ปีจากสโมสรต้นสังกัด อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า หวังว่าจะสามารถชักจูงใจให้อดีตแข้ง อาร์เซน่อล ตัดสินใจบอกปัด "สิงห์บลูส์" และเลือกย้ายมาค้าแข้งในคัมป์ นู แทน
"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ตกเป็นข่าวว่าสนใจที่จะคว้าตัว แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายตัวเก่ง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก มาเสริมทัพ จากการรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ดาว เตะวัย 30 ปี กลายเป็นเป้าหมายของ บาร์ซ่า มานานแล้ว และ โจเซป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ "เจ้าบุญทุ่ม" ก็อาจตัดสินใจเดินหน้าคว้าตัวแข้งทีมชาติอังกฤษ มาร่วมทีม เนื่องจากอนาคตของ เอริก อบิดัล แบ็กซ้ายคนปัจจุบัน เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
โคล เหลือสัญญากับ เชลซี ถึงช่วงซัมเมอร์ 2013 และเขาก็กำลังพิจารณาข้อเสนอสัญญาระยะเวลา 2 ปีจากสโมสรต้นสังกัด อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า หวังว่าจะสามารถชักจูงใจให้อดีตแข้ง อาร์เซน่อล ตัดสินใจบอกปัด "สิงห์บลูส์" และเลือกย้ายมาค้าแข้งในคัมป์ นู แทน
เวลส์ช็อกสปีดสิ้น!หลังแขวนคอตายในบ้านพัก
วงการลูกหนังต้องเจอกับข่าวช็อก หลัง แกรี่ สปีด กุนซือทีมชาติเวลส์ เสียชีวิตด้วยวัยเพียงแค่ 42 ปีเท่านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยสาเหตุการตายมาจากการแขวนคอตายในบ้านพักของตัวเอง
แกรี่ สปีด ผู้จัดการทีมชาติเวลส์ เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัยเพียงแค่ 42 ปีเท่านั้น จากการเปิดเผยของสมาคมฟุตบอลเวลส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จากการแขวนคอตัวเองในบ้านพัก
แถลงการณ์ของ สมาคมลูกหนังเวลส์ ระบุว่า "สมาคมฟุตบอลเวลส์ ขอประกาศด้วยความเศร้าถึงการเสียชีวิตของ แกรี่ สปีด ผู้จัดการทีมชาติ เราขอแสดงความเสียใจไปถึงครอบครัวของเขา เราขอให้ทุกคนเคารพความเป็นส่วนตัวของครอบครัวเขาในช่วงเวลาที่น่าเศร้า ครั้งนี้"
ทั้งนี้ สปีด เข้ามาคุมทัพ "มังกรแดง" เมื่อปีที่แล้ว โดยในช่วงค้าแข้งติดทีมชาติ 85 นัด และเคยคว้าแชมป์ลีกร่วมกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด นอกจากนั้น ยังเคยเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, โบลตัน วันเดอเรอร์ส และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาแล้ว
ด้าน ไมเคิ่ล โอเว่น กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งพักอยู่ใกล้กับบ้านของ สปีด ทวีตข้อความผ่าน "ทวิตเตอร์" เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังว่า "ผมแทบไม่อยากเชื่อกับข่าวของ แกรี่ สปีด เราเพิ่งโบกมือให้กันเมื่อ 2 วันก่อน ตอนไปส่งเด็กที่โรงเรียน ผมรู้สึกงงมาก"
แกรี่ สปีด ผู้จัดการทีมชาติเวลส์ เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัยเพียงแค่ 42 ปีเท่านั้น จากการเปิดเผยของสมาคมฟุตบอลเวลส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จากการแขวนคอตัวเองในบ้านพัก
แถลงการณ์ของ สมาคมลูกหนังเวลส์ ระบุว่า "สมาคมฟุตบอลเวลส์ ขอประกาศด้วยความเศร้าถึงการเสียชีวิตของ แกรี่ สปีด ผู้จัดการทีมชาติ เราขอแสดงความเสียใจไปถึงครอบครัวของเขา เราขอให้ทุกคนเคารพความเป็นส่วนตัวของครอบครัวเขาในช่วงเวลาที่น่าเศร้า ครั้งนี้"
ทั้งนี้ สปีด เข้ามาคุมทัพ "มังกรแดง" เมื่อปีที่แล้ว โดยในช่วงค้าแข้งติดทีมชาติ 85 นัด และเคยคว้าแชมป์ลีกร่วมกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด นอกจากนั้น ยังเคยเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, โบลตัน วันเดอเรอร์ส และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาแล้ว
ด้าน ไมเคิ่ล โอเว่น กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งพักอยู่ใกล้กับบ้านของ สปีด ทวีตข้อความผ่าน "ทวิตเตอร์" เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังว่า "ผมแทบไม่อยากเชื่อกับข่าวของ แกรี่ สปีด เราเพิ่งโบกมือให้กันเมื่อ 2 วันก่อน ตอนไปส่งเด็กที่โรงเรียน ผมรู้สึกงงมาก"
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !